บทสรุป NGO Street Drag Bike Party สนามที่ 9
กับการแข่ง DragBike ที่สุดของเมืองไทย
ก็จบลงไปแล้วกับมหกรรมการแข่งรถจักรยานยนต์ Drag ของสายหมอบทั่วฟ้าเมืองไทย ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นการแข่ง DragBike ที่ยากจะหางานแข่งไหนมาเทียบได้แล้วในเวลานี้ ซึ่งในสนามที่ 9 นี้ทางผู้จัด NGO Street Drag Bike Party ก็จัดให้เหล่าบรรดาสายหมอบทั้งหลาย ได้สนุกสุดมันส์กันแบบเต็มระบบเช่นเคย โดยมีผู้สนับสนุนหลักอย่าง น้ำมันเครื่อง Rac Oil ที่ได้ให้การสนับสนุนกันอย่างต่อเนื่อง และยังมีทีมงาน BoxzaRacing ไปร่วมเก็บภาพบรรยากาศสุดมันส์ พร้อมภาพเคลื่อนไหวมาให้แฟนๆ NGO ได้รับชมกันอีกด้วย
ส่วนความมันส์ในงานนี้ก็เปิดหัวด้วยการแข่งขัน Honda LS ที่ทางผู้จัดเปิดการแข่งขันขึ้นให้สาวก LS ได้แข่งกันอย่างสุดมันส์ ต่อด้วยการเปิดรอบ แว๊น รอบแรกที่ผู้จัด NGO Racing เปิดให้สายหมอบออกมาปลดปล่อยคันเร่งกันแบบ ฟรีๆ ไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้น ซึ่งก็ทำให้ขาซิ่ง (ในสนามแข่งเท่านั้น) ออกมาวาดลวดลาย ทั้งหมอบติดแฮนด์ ยกหน้าแบบยาวๆ กันนับร้อยคันไม่ว่าจะเป็นรุ่นเล็ก รุ่นใหญ่ รถสายพาน รถ 2 จังหวะ หรือ 4 จังหวะ เรียกได้ว่ามีทุกแบบทุกแนวกันเลยทีเดียว
ต่อกันด้วยการแข่งขันที่เรียกได้ว่ามีรถเข้าแข่งเยอะที่สุดแล้ว นั่นก็คือการแข่งขันรุ่น หรีด 4 ที่เคยสร้างปรากฎการณ์มาแล้วที่สนามบุรีรัมย์ โดยมีเบอร์ที่สมัครเข้าแข่งขันกว่า 150 เบอร์ แต่ในสนามนี้ก็ยังคงเป็นรุ่นแข่งที่ยอดฮิตเช่นเคยเพราะมีรถแข่งเข้าร่วมแข่งขันกว่า 50 คัน มาจากหลากหลายทีมด้วยกัน โดยการแข่งก็ได้ดำเนินไปอย่างสุดมันส์ เวลาที่ทำกันได้ก็ดีขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งการทำเวลาที่เบียดกันแบบไม่มีใครยอมใคร เพื่อชิงโพเดียมกันอย่างสนุก และยังมีการแข่งรุ่น 2 จังหวะโอเพ่น ที่แข่งควบคู่กันไปอีกด้วย โดยในรุ่นนี้ก็มีทีมแข่งชั้นนำเข้าร่วมแข่งกันไม่ว่าจะเป็น ช่างหนุ่ม ทรัพย์เจริญ ,ช่างปุ๊ ประชาสงเคราะห์ By น้าดิ๊น เสียไม่ได้ เป็นต้น โดยในสนามนี้ช่างหนุ่มก็ได้ยึดตำแหน่งที่ 1 ไปโดยกดเวลาลงที่ 10.5 วินาทีกันเลยทีเดียว
หลังจากจบการแข่งในทั้งสองรุ่นนี้ไปแล้ว ก็มาต่อด้วยการเปิดรอบแว๊นกันเป็นรอบที่ 2 ให้สายหมอบได้ออกมาระเบิดพลังกันอีกครั้ง ควบคู่ไปกับกิจกรรมของทาง NGO ที่นำของรางวัลจากผู้สนับสนุนมากมายหลายอย่าง มาร่วมสนุกกับผู้ชมที่เข้ามาชมการแข่งขัน โดยบรรยากาศก็เต็มไปด้วยความสนุกสนานเป็นอย่างมาก จบจากกิจกรรมต่างๆ ก็เป็นการแข่งในรุ่น 150 โทริ่ง ชั่ง 150 โล และ 150 โทริ่งโอเพ่น ตามลำดับและหลังจากจบการแข่งในทั้งสองรุ่น ก็มีการเปิดรอบแว๊น กันอีกเป็นรอบที่ 3 ซึ่งในสนามนี้ทางผู้จัด NGO ก็ได้เปิดรอบแว๊นให้วัยรุ่นไทยหัวใจสายหมอบได้ลงมาแว๊นกันในสนามแบบจัดเต็มจริงๆ
หลังจากจบ แว๊น ในรอบที่สาม ก็มาถึงคิวการแข่งขันที่หลายๆ คนรอคอย โดยเป็นการแข่งรุ่นใหญ่ 2 รุ่นที่เป็นรุ่นใหญ่สุดของงานนี้เลยกว่าได้ เปิดด้วยการแข่งขันรุ่น แฮนท์บนโอเพ่น ในรุ่นนี้จะไม่มีการตรวจสภาพหรือชั่งน้ำหนักรถอะไรใดๆ ทั้งสิ้น และการแข่งขันในรุ่นนี้ก็ขับเคี่ยวกับแบบสุดมันส์ มาถึงการแข่งรุ่นสุดท้ายและท้ายสุดกันแล้วกับรุ่น Super Open King Of Garage หรือ “ที่สุดของอู่” ที่ในสนามนี้ก็มีทีมเข้าร่วมแข่งขันกันถึง 15 ทีมเลยทีเดียว ซึ่งก็มีบรรดาทีมชั่นนำของเมือไทยส่งรถเข้าแข่งกันอย่างเต็มพิกัด ไม่ว่าจะเป็น มาโนชน์ เซอร์วิส ,ช่างบาสเพชรเกษม ,ช่างบอมรังสิต ,ช่างเซะ ม.กรุงเทพ และแชมป์เก่าอย่าง ช่างจ่อย ลาดพร้าว ซึ่งในการแข่งขันก็ดำเนินไปอย่างราบลื่นในช่วงแรกโดย ณ.เวลานั้น ทีมมาโนชน์ เซอร์วิส ที่กดเวลายืนอยู่ที่ระดับ 10.4 วินาที โดยมีทีมอื่นๆ ไล่เวลาอยู่ที่ระหว่าง 10.5-10.8 วินาที แต่สิ่งที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น มันก็เกิดขึ้นจนได้ โดยมีสายฝนที่ไม่ตกมาทั้งวันตลอดการแข่งขัน กลับมาตกเอาช่วงสุดท้ายของงานนี้ จึงทำให้การแข่งในรุ่นนี้ไม่สามารถแข่งต่อได้ ทางผู้จัดจึงต้องยกเลิกการแข่งขันไป
ส่วนภาพบรรยากาศ คลิปวีดีโอมันส์ๆ ในงานนี้ว่ามีอะไรเกิดขึ้นบ้าง แฟนๆ NGO ก็สามารถติดตามกันได้ที่ www.ngo.boxzaracing.com ซึ่งเราจะนำทั้งภาพและเสียงมาให้แฟนๆได้รับชมกันแบบเต็มอิ่ม และในสนามหน้าซึ่งเป็นสนามที่ 10 ประจำปี 2015 ทาง NGO Street Drag Bike Party ก็จะไปท้าหนาวกันที่สนามแข่งระดับโลก ณ.สนาม Buriram Dragster Track จังหวัด บุรีรัมย์ ในวันที่ 14/11/2015 นี้แบบเต็มระบบเช่นเคย แล้วพบกันในสนามหน้า..สวัสดีครับ